ข้อมูล สาย Ground wire มันคืออะไร
ข้อมูล สาย Ground wire มันคืออะไร
คุณเคยลองสังเกตุกันไหมว่า สาย Ground wire ที่ติดอยู่ในรถแต่ละคัน ผมเคยไปถามตามร้านต่าง ๆ ร้านก็บอกว่าติดไปแล้วไม่ได้ผล หรือติดไว้เพื่อดูสวยงามในห้องเครื่อง แล้วแต่ขึ้นอยู่กับุคคลที่สนใจอยากจะติดตั้ง แต่คราวนี้จะพาไปชมสาย Ground wire ว่าปัจจุบันมันเป็นอย่างไร แล้วมียี่ห้ออะไรบ้าง
ปัจจุบัน สาย Ground wire ที่ว่านี่มีหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเปน Split Fire, HKS, Hurricane และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งราคาตรงนี้ก็จะแตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่หลัก 2000 กว่าขึ้นไปจนถึง 9000 บาท(แพงที่สุดที่ผมทราบนะ)ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่ร้านที่จะติดตั้งว่าเค้าคิดราคาเท่าไหร่…
สาย Ground Wire ที่มีขายในท้องตลาดทั่วๆไป ทั้งที่เป็นของแท้และของ copy นั้นส่วนมากจะเป็นขนาดประมาณเบอร์ 8 (ประมาณนิ้วก้อยเรานี่เอง) ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เล็กเกินไปครับเราสามารถ Upgrade ได้โดยเปลี่ยนขนาดของสายกราวน์เป็นเบอร์ 4 (ประมาณนิ้วชี้) หรือเบอร์ 0 (ประมาณนิ้วโป้ง ซึ่งผมใช้อยู่นี่เอง)
ใน เรื่องระบบ Ground นี้น คุณภาพของสายไม่ว่าจะเป็นทองแดงเกรดดีแค่ไหน หรือเป็นสายเงินแท้ๆ ก็ไม่แตกต่าง เพราะระบบ Ground นี้นต้องการมองเห็น Base ที่ใหญ่ที่สุด หมายความว่าการที่สามารถทำให้ตัวถังรถทั้งคันเป็นกราวน์ได้หมดทั้งคัน หรือระบบไฟสามารถมีที่ลงกราวน์ได้หลายๆที่ ทำให้ระบบไฟสมบูรณ์และครบวงจร
ทำไม สายขนาดใหญ่ถึงดีกว่า? เพราะว่ากระแสไฟเดินทางบนผิวหน้าของทองแดง และขนาดของพื้นที่หน้าตัดของสายไฟเป็นตัวกำหนดกระแสที่จะวิ่งผ่าน หมายความว่าสายยิ่งใหญ่ กระแสยิ่งสูง ความต้านทานต่ำ
เราสามารถหา ซื้อสายเบอร์ 0 ได้ที่บ้านหม้อร้าน VP เมตรละประมาณ 450-500 บาท แล้วก็หาซื้อหางปลาสีทองแดง (ตามแผงลอย) ตัวละ 10 บาท ขนาดใหญ่สุดอีกประมาณ 15-20 ตัว แล้วก็นำมาเข้าสายทำการบัดกรีด้วยหัวแร้ง ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ
หมายเหตุ ต้องบัดกรีสายนะครับ อย่าใช้แค่คีมหนีบ เพราะกระแสจะวิ่งได้ดีถ้ามีตะกั่วเป็นตัวนำ จุด สำคัญที่ต้องลง Ground Wire ที่ดีมี 6 จุดครับ ข้อมูลนี้ได้จาก website ต่างประเทศ (ผมไม่ค่อยเก่งคำศัพท์ทางเครื่องยนต์นะครับ ถ้าผิดพลาดไปต้องขออภัย)
1. ท่อไอดี (Intake Manifold)
2. ตัวถังเครื่องยนต์ (Engine Block)
3. ระบบไฟหน้าทั้งหมด (Head Lamp)
4. ฝาวาล์ว (Cylinder Head)
5. ไดชาร์จ (Altenator)
6. เกียร์ (Transmission)
รับรอง ว่าเพื่อนๆจะเห็นความแตกต่างชนิดที่เรียกว่า นรกกับสวรรค์เลยครับ เราไม่จำเป็นต้องไปเสียรู้ซื้อ Ground Wire มียี่ห้อชุดละหลายพันบาท สิ้นเปลืองโดยไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปครับ เพราะผมถือคติที่ว่า เสียเงินไม่ว่าแต่อย่าเสียรู้
เพราะเมื่อวุฒิภาวะเราสูงขึ้น เราต้องบาดเจ็บให้น้อยที่สุด หรือถ้าจะให้ดีต้องไม่บาดเจ็บเลยครับ ดังนี้นแต่ละบาทที่จ่ายออกไป ถึงจะไม่คุ้มค่าเต็ม 100% ก็ขอให้ได้สัก 70% ถือว่าเรายังมีกึ๋น แต่ถ้าเราแต่งรถด้วยอารมณ์พาไป ไม่ว่าจะแต่งแข่งกับเพื่อน หรือแรงยุจากเพื่อน โดยไม่คำนึงถึงกระเป๋าตังเอง ก็จะทำให้เราอยู่ในกลุ่ม โดนรถเล่น ไม่ใช่พวกเล่นรถ
เพราะผมถือว่าพวกแต่งรถที่รู้จักข้อจำกัดของรถและของตนเองนั้น เป็นผู้เล่นรถที่ดีครับ ไม่เดือดร้อนตัวเองครับ
จุด Ground ที่ดีที่สุดในรถแต่ละคันนั้นแตกต่างกันครับ และอาจจะไม่ได้อยู่ในห้องเครื่องเลยก็เป็นได้ อาจจะไปอยู่ที่ท้ายรถ หรืออยู่แถวๆเบาะหลังก็ได้ครับ
ดังนั้นในรถผมจึงเดิน Ground Wire กระจายทั้งสี่ทิศในห้องเครื่องเพียงเพื่อต้องการให้ Ground ที่อยู่ใกล้จุด Ground ที่ดีที่สุดในรถ เดินทางได้เต็มที่และเร็วที่สุด จึงเกิดความเสถียรสูงสุด (ขี้เกียจทำเครื่องวัด เสียเวลา เพราะถ้าวัดแล้วมันเกิดไปอยู่ท้ายรถ จะให้ทำอย่างไร ก็เลยไม่รู้ดีกว่า)
ตัวอย่างง่ายของความสำคัญของ Ground
มี คนเล่าให้ผมฟังว่า เขาได้ทำการติดตั้งเครื่องยนต์ในห้องเครื่อง โดยสายทุกอย่างติดตั้งอย่างถูกต้อง แต่ปรากฏว่า strat ไม่ติดครั้ง ไล่สายใหม่หมด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เขาจะเอะใจ เลยเอาสายพ่วง battery สีดำ (ขั้วลบ) หนีบไปที่ตัวถังเครื่อง แล้วลอง start ปรากฏว่าสามารถ start ติดได้ในบัดดล
เหตุการณ์นี้เรียกว่า อาการ กิน (..หม่ำ.. ซด) ground หรือ รับประทาน ground นั่นเองครับ) อย่างเช่นวิทยุบางเครื่องมีสาย ground สีดำมาให้เรียบร้อยแล้ว แต่พอเดินสายเรียบร้อยปรากฏว่า เปิดไม่ติด ลองยังงัยก็ไม่ติดครับ พอเอาสาย ground มีแตะที่ตัวถังวิทยุเท่านั้นแหละ ติดเองโดยอัตโนมัติเลยครับ