CCFL ANGLE EYE คืออะไร รู้ทันเทรนด์ใหม่กับการตกแต่งไฟหน้า
“นำเทรนด์ต้องรู้จริง ! CCFL คืออะไร กำเนิดมิติใหม่ของระบบไฟหน้า”
>> บทความนี้ท่านจะได้เรียนรู้ รู้ลึก..ว่า CCFL คืออะไร? หลักการทำงานของมันเป็นอย่างไร โดยทางศูนย์บริการ BANKKIN CONCEPT CAR ได้ผลิตคิดค้นนำเข้าระบบไฟประเภทนี้ มาติดตั้งให้กับรถยนต์ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2007 โดยได้ Big Idea มาจากค่าย BMW ที่เป็นผู้ริเริ่มระบบไฟนี้ขึ้นมา จึงได้เกิดความคิดที่ว่า แล้วทำไมรถทุกรุ่นจะมีไฟวงแหวนแบบนี้ไม่ได้! ด้วยเหตุนี้ ตำนานแห่ง CCFL ANGLE EYE จึงได้บังเกิดขึ้นในประเทศไทยครับ..เอาล่ะไปชมรายละเอียดกันเลย
** ย้อนตำนานกับเทรนด์ฮิต เรียนรู้หลักการทำงานของไฟวงแหวน ก่อนติดตั้ง **
** BMW E60 กับรูปแบบไฟหน้าต้นตำหรับ(แต่ในภาพติดตั้งไฟวงแหวนของทางร้านนะครับ ) **
>> ปัจจุบันเทรนด์การตกแต่งไฟส่องสว่างให้แก่รถยนต์คู่ใจถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ได้เฉพาะเจาะจงเพียงแต่กลุ่มรถแนว VIP CAR, LUXURY CAR ที่เน้นความหรูหราไฮโซเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรถบ้าน , รถสปอร์ต หรือรถแต่งซิ่งตามท้องถนน สำหรับของแต่งยอดนิยมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนว่าจะเลือนรางหายไปง่าย ๆ เพราะมันช่วยเปลี่ยน Looks จากหน้าตาแบบเดิม ๆ ดูไร้ชีวิตชีวา ให้มีมิติหรูหรามากขึ้น สร้างความโดดเด่นในยามค่ำคืนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เรากำลังพูดถึง หลอดไฟวงแหวน CCFL กันอยู่ครับ สำหรับไฟวงแหวน หรือ ANGLE EYE หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีในยานยนต์จากค่ายใบพัดฟ้าขาว BMW เพราะเป็นผู้ริเริ่มในการคิดค้นขึ้นมา โดยในยุคแรก ๆ ตัวหลอดไฟวงแหวนที่อยู่ด้านในโคมล้อมรอบจานฉายจะถูกผลิตมาจากแท่งพลาสติกใส หัว-ท้าย จะเป็นหลอด LED (Light Emitting Diode) เมื่อเปิดใช้งานในยามค่ำคืน มันจึงสร้างความโดดเด่นได้ไม่น้อย ละม้ายคล้ายดวงตาของเทวเทพที่จับจ้องมายังเรา แต่ข้อเสียของมันคือมีความร้อนสะสมสูง ไม่ทน ขาดง่าย อีกทั้งยังให้ความสว่างได้แบบไม่เต็มวง ดังนั้นจึงเป็นแหล่งกำเนิดของ หลอดไฟ CCFL (Cold Cathode Fluorescent Lamp) นั่นเอง
หลักการทำงาน
>> CCFL (Cold Cathode Fluorescent Lamp) เป็นแหล่งพลังงานแสงอิเล็คทรอนิคส์ชนิดหนึ่งที่ภายในตัวหลอดพลาสติคเซรามิคจะถูกเคลือบด้วยสารฟอสเฟตเพื่อให้แสงสว่าง โดยมีแก๊สรวมถึงสารปรอทในปริมาณเล็กน้อยอยู่ข้างใน และจะให้อิเล็คตรอนจำนวน 2-3 ตัววิ่งไปชนกับขั้วไฟฟ้าทั้งสองฝั่งซ้ายขวา จนก่อให้เกิดการเพิ่มจำนวนของอิเล็คตรอนมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับปล่อยแก๊สออกมาในปริมาณมาก ๆ ซึ่งอะตอมของสารปรอทจะเริ่มต้นปล่อยรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตในจำนวน 253.7 นาโนเมตร(nm.) ออกมา ส่งผลให้เกิดแสงสว่างจ้าไปทั้งตัวหลอด ในทางตรงกันข้าม มันกลับใช้พลังงานต่ำ มีความร้อนสะสมน้อย ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เปิดปุ๊ปติดปั๊บ มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทนต่อแรงกระแทกและการเปิด-ปิดแบบกระพริบอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะอยู่ในโคมไฟหน้ารถยนต์ที่มีการใช้งานหลากหลายและมีแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งตัวหลอดยังมีให้เลือกทุกเฉดสีทุกขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับโคมไฟเดิม ๆ ของรถยนต์ทั่วไป ถามว่าหลอดไฟ สีสันต่าง ๆ ที่เห็นอยู่ตามท้องถนนทุกวันนี้ผิดกฏหมายไหม แน่นอนว่าไม่อาจปฏิเสธได้ตามประมวลบทกฏหมายที่กำหนดให้โคมไฟหน้ารถสามารถใช้ได้แค่ 2 สี สีเหลืองอ่อนและสีขาว ถ้าเป็นสีอื่นจะถือว่ามีความผิดพระราชบัญญัติรถยนต์เกี่ยวกับการดัดแปลงสภาพรถที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น แต่ หากลองมานั่งพิจารณาดูให้ดีแล้วจะเห็นว่าเจ้าหลอดไฟประเภทนี้นั้น ไม่ได้ให้แสงที่สว่างจ้าจนแยงตารถคันอื่นเพราะจะไม่เหมือนกับติดไฟหรี่นั่นเอง โดยให้ความสว่างแทบไม่ต่างจาก หลอดเรืองแสง กินไฟกินวัตต์น้อย ดังนั้นจึงไม่ก่อความเดือดร้อนกับผู้อื่นและสร้างภาระให้แก่รถยนต์ของตนเองอย่างแน่นอน ในทางกลับกันมันควรถูกกำหนดให้เป็นชุดไฟ DAY LIGHT RUNNING ส่องสว่างในเวลากลางวันอันเป็นมาตรฐานความปลอดภัยจากฝั่งยุโรปซะด้วยซ้ำ เพราะมีการวิจัยออกมาแล้วว่าช่วยลดอุบัติเหตุได้จริง หรือถ้าใครไม่สบายใจก็ต่อสวิทซ์เปิด-ปิดแยกออกมาต่างหากได้
ติดตามข่าวสาร GURU LIGHTING ศูนย์ติดตั้งระบบไฟรถยนต์มาตรฐาน
Tel:086-6666437
Website : https://www.bankkin.com/
Fanpage : https://www.facebook.com/BANKKINXENON